ดาวเทียมระบบ DIGITAL MPEG 2 การส่งสัญญาณภาพให้เป็นระบบ DIGITAL เป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการส่งสัญญาณที่ชัดเจนที่ดียิ่งขึ้น ซึ่งระบบนี้จะดีกว่าการส่งสัญญาณในระบบ ANALOG แบบเดิมๆมาก และได้มีการพัฒนาการบีบอัดสัญญาณด้วยระบบ DIGITAL ให้มีความสามารถสูงขึ้นอีก เพื่อลดจำนวนข้อมูลในการส่งผ่านสื่อต่างๆ ซึ่งจะทำให้ผู้ประกอบการทางด้านนี้สามารถลดค่าใช้จ่ายในเรื่องของการเช่า ช่องสัญญาณของดาวเทียมลดลงได้ ช่องสัญญาณดาวเทียม ( Transponder ) 1 ช่องสัญญาณนั้น สามารถที่จะเอาเทคโนโลยี่บีบอัดสัญญาณโดยระบบ DIGITAL ด้วยมาตรฐานของ MPEG 2 DVB ( Moving Picture Experts Group 2 Digital Video Broadcasting ) อันเป็นเทคโนโลยี่ที่ทันสมัย และการนำมาตรฐานของ MPEG 2 มาใช้ก็สามารถช่วยให้ส่งช่องสัญญาณได้มากถึง 8-10 ช่องสัญญาณภาพต่อ 1 ช่องสัญญาณดาวเทียม
หลักการพื้นฐานในการบีบอัดข้อมูลของ MPEG 2
ใช้หลักการสำคัญอยู่ 3 ข้อ ได้แก่
1. ความสัมพันธ์ร่วมทางช่วงว่าง ( Spatial correlation )
2. ความสัมพันธ์ร่วมทางเวลา ( Time correlation )
3. การเข้ารหัสแบบเปลี่ยนแปลงความยาว ( Voriable-length coding )
เทคนิคการใช้ความสัมพันธ์ร่วมทางช่วงว่าง
ความสัมพันธ์ร่วมทางช่วงว่างจะใช้การแลกเปลี่ยนส่วนประกอบย่อยของข้อมูลภาพ ให้เป็นความถี่ ระบบ MPEG 2 ใช้กรรมวิธี DISCRETE COSINE TRANSFORM ( DCT ) เพื่อเปลี่ยนข้อมูลของจุดภาพ ( PLXEL ) ที่มีความสัมพันธ์ร่วามทางช่วงว่างสูง ให้มีความถี่ต่ำที่จะบรรจุรายละเอียดข้อมูลได้ปริมาณมาก
ในขั้นตอนต่อไปจะทำการกำจัดส่วนประกอบความถี่สูงเพื่อเป็นการบีบอัดข้อมูล ด้วยการใช้ ขบวนการเฉพาะที่รู้จักกันในนามของ Quantization ถ้ามีอัตราบีบอัดภาพมากจะทำให้คุณภาพของภาพที่แสดงออกมาด้อยลงไปด้วย
เทคนิคการใช้ความสัมพันธ์ร่วมทางเวลา
การบีบอัดข้อมูลภาพที่ใช้ความสัมพันธ์ร่วมทางเวลาจะใช้ความสัมพันธ์ในการ แสดงออกทางภาพระหว่างแฟรมในกรณีนี้ภาพที่บรรจุรายละเอียดข้อมูลที่เหมือนกัน ภายในภาพ 2 ภาพ ( แฟรม ) ที่ติดต่อกัน ถ้าภาพประกอบด้วยข้อมูล เคลื่อนไหวเหมือนกันทั้ง 2 ภาพระบบจะสร้างภาพของแฟรมแรกขึ้นมาใหม่ เพื่อใช้สร้างภาพให้กับเฟรมที่ 2 ระบุความสอดคล้องระหว่างกันในภาพของ 2 เฟรม เพื่อกำหนดทิศทางและระยะของการเคลื่อนไหว แล้วส่งเวกเตอร์ระบุการเคลื่อนไหวไปให้เฟรมถัดไป การกระทำเช่นนี้เรียกว่า การชดเชยความเคลื่อนไหว ถ้าไม่มีความแตกต่าง ของข้อมูลสำหรับทุกเฟรม ระบบจะสร้างภาพเดิม ให้ปรากฏขึ้นในเฟรมถัดไปด้วยการส่งรหัสเพื่อระบุการไม่มีการเปลี่ยนแปลง ของภาพออกมา
การเข้ารหัสแบบเปลี่ยนแปลงความยาว
เทคนิคของการบีบอัดข้อมูลแบบใช้ความแตกต่างของการประมาณความน่าจะเป็นของ รหัสที่ปรากฏ รหัสสั้นให้ข้อมูลที่มีความน่าจะเป็นสูงและรหัสยาวสำหรับข้อมูลที่มีความน่า จะเป็นต่ำ ระบบนี้จะทำให้ปริมาณของรายละเอียดข้อมูลเฉลี่ยลดน้อยลงได้มาก
ระบบนี้ใช้ร่วมกันระหว่างความสัมพันธ์ร่วมทางช่วงว่างความสัมพันธ์ร่วมทาง เวลาและการเข้ารหัสแบบเปลี่ยนแปลงความยาวสามารถบีบอัดข้อมูลภาพให้ลดลงไปจาก ปริมาณเดิมได้ถึง 1:20 หรือ 1:30 สำหรับขบวนการถอดรหัสของสัญญาณภาพจะใช้กรรมวิธีที่กลับกันกับขบวนการ เข้ารหัส
จากที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้นจะเห็นว่า เทคโนโลยี่การบีบอัดสัญญาณโดยระบบ DIGITAL มาตรฐาน MPEG 2 สามารถลดจำนวนข้อมูลให้เล็กลง และสามารถส่งโปรแกรมได้มากถึง 8-10 โปรแกรม ต่อ 1 ช่องสัญญาณดาวเทียม เป็นการประหยัดและให้ความ คมชัดยิ่งขึ้น
รวบรวมข้อมูลโดย มนตรี สุขรอบ.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น